แม้วิกฤตโควิด-19 ยังคงระบาดอย่างหนักหน่วง ทว่า การนำศักยภาพของเทคโนโลยี 5G เข้าเสริมประสิทธิภาพการทำงานของภาคอุตสาหกรรมยังคงเป็นไปตามแผนงานหลัก มิได้ถูกดิสรัปด้วยวิกฤตโรคระบาดในครั้งนี้แต่อย่างใด เพราะการสร้างความเปลี่ยนแปลงในภาคการผลิตของประเทศให้มีความสามารถทัดเทียมกับนานาชาติด้วยเทคโนโลยี 5G Smart Manufacturing Solutions ซึ่งเป็นโซลูชั่นสมัยใหม่ มีความจำเป็นต่อการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยให้เข้าสู่ยุค อุตสาหกรรม 4.0 แบบเต็มขั้น
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเทคโนโลยี 5G Smart Manufacturing Solutions ได้นำไปใช้งานได้อย่างไร้รอยต่อในภาคอุตสาหกรรมไทย จึงได้เกิดการผนึกกำลังความร่วมมือจากการลงนาม (MoU) ระหว่าง บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท ทีเคเค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่มีความมุ่งมั่นเดียวกันที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าของภาคอุตสาหกรรมไทยด้วยเทคโนโลยีแบบ Total Industrial Solution ที่ใช้งานได้จริงในภาคการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภทบนศักยภาพของ AIS 5G เครือข่ายการสื่อสารที่คนไทยไว้วางใจ
ความร่วมมือในครั้งนี้มีความน่าสนใจและมีจุดเด่นชัดเจน ในเรื่องของความเข้มแข็งจากกลุ่มพันธมิตร ทั้ง มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น ที่มีความแข็งแรงในด้านสายการผลิตของโรงงานในประเทศไทย และ ทีเคเค คอร์ปอเรชั่น ผู้จำหน่ายสินค้าและดำเนินการใช้งานระบบควบคุมการผลิตอัตโนมัติในโรงงานชั้นนำ ที่จะมาร่วมกันนำเสนอโซลูชั่น e-F@ctory ซึ่งพร้อมให้บริการและยกระดับภาคการผลิตด้วย Smart Manufacturing บวกกับการใช้งานจริงบนเครือข่าย AIS 5G ที่จะมาเสริมประสิทธิภาพการทำงานภายในภาคการผลิตได้อย่างสมบูรณ์
ทั้งนี้ เพื่อทำความเข้าใจเทคโนโลยีที่เป็นโซลูชั่นใหม่ของภาคอุตสาหกรรมไทย รวมถึงทิศทางในการนำศักยภาพ 5G สู่ภาคอุตสาหกรรมและใช้ในการฟื้นฟูประเทศ AIS 5G จึงได้จัด group Interview เพื่อไขข้อข้องใจในทุกประเด็นเกี่ยวกับภารกิจนี้
นวัตกรรมและเทคโนโลยีสำคัญ ส่งให้ทุกภาคอุตสาหกรรมปรับตัวสู่ 5G Smart Manufacturing Solutions ได้จริง
วิเชียร งามสุขเกษมศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวแนะนำโซลูชั่น e-F@ctory ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเพิ่มประสิทธิภาพให้กระบวนการผลิตในภาคอุตสาหกรรมได้ทั่วโลก และกำลังนำเสนอให้ได้รับการนำไปปรับใช้อยางแพร่หลายในภาคอุตสาหกรรมไทยด้วย
“ประเทศไทยนับว่าเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของโลกมาอย่างยาวนาน ทำให้วันนี้ถึงเวลาที่ต้องนำเทคโนโลยีโซลูชั่นใหม่ๆ เข้ามาเสริมศักยภาพเพื่อรักษาตำแหน่งนี้ไว้ ซึ่งทาง Mitsubishi Electric เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาโดยตลอด”
“และยิ่งเมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 ภาคการส่งออกของไทยยิ่งเป็นภาคส่วนที่สร้างรายได้ให้ประเทศไทยได้มหาศาล ดังนั้น ภาคอุตสาหกรรมจึงต้องเร่งปรับตัว เพิ่มศักยภาพในการผลิตให้ทันต่อความต้องการของโลกด้วย”
“โดยวันนี้เราได้ร่วมพัฒนาโซลูชั่น ที่นำไปใช้งานได้จริงแล้วมากกว่า 10,000 โซลูชั่นทั่วโลก เรียกว่า e-F@ctory และความร่วมมือครั้งนี้ก็ทำให้การใช้งานจริงเกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการภาคอุตสาหกรรม เชื่อมต่อข้อมูลทุกระดับด้วยอุปกรณ์ IoT ทั้งหมด ทำให้เกิดประโยชน์กับการทำงานในทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพโรงงานและสนับสนุนระบบการผลิตในอนาคตทั้งกระบวนการผลิต”
“นวัตกรรมหลักที่ทาง Mitsubishi Electric นำเสนอ คือ โซลูชั่น Factory Automation กับการควบคุมระยะไกลด้วย IoT
เทคโนโลยี IoT โดยเทคโนโลยีนี้จะกลายเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทำให้การทำงานและใช้ชีวิตสะดวกมากขึ้น ทำลายขีดจำกัดของการเดินทางและเวลาในการทำงานออกไป ตอบสนองการทำงานที่แตกต่าง เหมาะกับสถานการณ์ COVID-19 ที่ต้องสามารถทำงานจากที่ไหนและเมื่อไหร่ก็ได้”
“Mitsubishi Electric พัฒนาโซลูชั่น IoT ร่วมกับ Partners ในโครงการ e-F@ctory Alliance อย่าง ทีเคเค คอร์ปอเรชั่น ที่มีความเชี่ยวชาญในการจำหน่ายและดำเนินการใช้งานสินค้าในระบบควบคุมการผลิตอัตโนมัติในโรงงาน ซึ่งมีความท้าทายในการพัฒนาการควบคุมเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่มีความซับซ้อน ตั้งแต่ระบบการทำงานไปจนถึงเครือข่ายการเชื่อมต่อ ที่จะสามารถควบคุมการทำงานได้อย่างสมบูรณ์ เสมือนการควบคุมจากหน้าไลน์การผลิต จนได้ออกมาเป็นกลุ่มโซลูชั่น FA Remote ที่มี 4 ส่วนประกอบ ได้แก่”
- Remote Monitoring : จะช่วยให้ ผู้บริหาร, หัวหน้างาน หรือ ผู้ดูแลเครื่องจักร สามารถตรวจสอบสถานะการผลิต สถานะเครื่องหรือ ประสิทธิภาพการผลิต ได้จากทุกที่ ทำให้สามารถบริหารจัดการการผลิตในภาพรวมได้ชัดเจน และยังมองเห็นปัญหาในภาพรวมเพื่อแก้ไขต่อไป
- Remote Maintenance : สามารถลดระยะเวลาการเข้าหน้างานไปซ่อมบำรุงรักษา หรือตรวจสอบการทำงานเครื่องจักร และสามารถทำงานจากที่บ้านได้ ทำให้ลดต้นทุนค่าเสียโอกาส ที่สายการผลิตจะต้องหยุดลง
- Remote Development : จะเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการภาพรวมในการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในโรงงาน ทำให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และจากที่ไหนก็ได้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประสานงานระหว่างแผนก
- Remote Service : บริการให้คำปรึกษาแบบทางไกลได้ทันทีผ่าน Mobile Network จากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของ Mitsubishi และ Partners เมื่อเครื่องจักรมีปัญหาสามารถ เข้าแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้จากระยะไกลได้อย่างรวดเร็ว
“และไม่ใช่แค่ โซลูชั่น FA Remote เท่านั้น แต่เพื่อให้โซลูชั่นนี้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทาง Mitsubishi Electric และ ทีเคเค คอร์ปอเรชั่น ยังได้ออกแบบ ซอฟต์แวร์ระบบการควบคุมโดย e-F@ctory Alliance ที่ครอบคลุมการทำงานทุกด้านในอุตสาหกรรม ตั้งแต่การตรวจสอบ, การบำรุงรักษา, การบริการ และการพัฒนาระยะไกล โดยระบบทั้งหมดจะทำงานร่วมกันและเชื่อมต่อข้อมูลไปยัง Cloud Computing แบบครบวงจร”
ต้นแบบภาคอุตสาหกรรมที่ปรับเอา 5G Smart Manufacturing Solutions เพิ่มผลิตภาพ (Productivity) ได้จริง
เพื่อให้เห็นภาพการนำเทคโนโลยี 5G Smart Manufacturing Solutions ที่สามารถนำมาใช้จริงในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น กัลยาณี คงสมจิตร ประธานบริหาร บริษัท ทีเคเค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้กล่าวถึงบทบาทของ ทีเคเค รวมถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ได้ร่วมกับ Mitsubishi Electric ออกแบบขึ้นเพื่อขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยให้เป็น Smart Manufacturing ให้ได้
“ทางทีเคเค เข้ามามีบทบาทร่วมกับ Mitsubishi Electric และกลุ่มพันธมิตร หนึ่ง ในเรื่องของการออกแบบให้คำปรึกษาในเรื่องของระบบอัตโนมัติ สอง การเขียนโปรแกรมซอฟแวร์ระบบการควบคุมโดย e-F@ctory Alliance เพื่อควบคุมเครื่องจักร สาม การสร้างหุ่นยนต์อุตสาหกรรมและหุ่นยนต์บริการ สี่ในส่วนของ Vision System หรือระบบกล้องที่จะตรวจสอบผลงาน ตรวจสอบคุณภาพในสายงานการผลิต และส่วนสุดท้าย ส่วนที่ ห้า เป็นระบบ SCADA ที่ในตอนนี้มีภาคอุตสาหกรรมในส่วนของกระบวนการผลิตที่ได้นำไปใช้ เพื่อบริหารกระบวนการผลิตอย่างได้ผล”
“อย่างไรก็ตาม สำหรับภาคอุตสาหกรรมของไทยในตอนนี้ เราต้องยอมรับว่ายังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 3.0 การจะเข้าถึงระบบอัตโนมัติ หรือออโตเมชั่น จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในการผลิต และการจะใช้เทคโนโลยีนี้ ยังต้องเน้นในเรื่องประสิทธิภาพของการสื่อสารระหว่างเครื่องจักร Machine to Machine ด้วยเหตุนี้เองจึงจำเป็นต้องมีเทคโนโลยี IoT เกิดขึ้น เพื่อไปเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบอัตโนมัติ เพิ่มประสิทธิภาพของการสื่อสาร เพื่อให้เครื่องจักรสามารถวิเคราะห์ปัญหา และแก้ไขปัญหาด้วยตัวของมันเอง โดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์”
“ดังนั้น e-F@ctory Alliance ที่ทาง Mitsubishi Electric ได้นำเสนอ จึงเป็น Eco-system ที่สำคัญมาก ตามที่คุณวิเชียรได้กล่าวไปว่า การจะมี Eco-system นี้เกิดขึ้นได้ต้องมีการจับมือร่วมกัน โดยงานแถลงข่าวในวันนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งต้นแบบของการจับมือร่วมกันที่สำคัญ และเห็นได้ชัดว่าในช่วงเวลาตอนนี้ ความร่วมมือคือขุมทรัพย์ ที่เคลื่อนไหวให้ทุกฝ่ายเติบโตไปด้วยกันได้”
จากนั้น ซีอีโอของ ทีเคเค คอร์ปอเรชั่น ได้ยกตัวอย่าง Best practice ของบริษัท ที่ได้นำ ระบบ 5G Smart Manufacturing Solutions ไปใช้และเกิดประสิทธิผลในการช่วยเพิ่มคุณภาพ ลดต้นทุนการผลิต ได้จริง
“เมื่อโลกในตอนนี้ไม่ปกติอีกต่อไปก็ถึงเวลาที่ทุกธุรกิจ ทุกอุตสาหกรรม ต้องปรับตัวให้เร็วขึ้น และยืดหยุ่นขั้นสูงสุด เพื่อพัฒนาองค์กรให้เป็น Agile Organization ซึ่งที่ผ่านมาทาง ทีเคเค ได้นำโซลูชั่นส์ ที่จะช่วยปูทางให้ทุกภาคอุตสาหกรรมไปสู่ความเป็น Smart Factory ไปนำเสนอให้กับกลุ่มลูกค้า จนกระทั่งเกิดเป็น Best practice ของภาคอุตสาหกรรมที่นำระบบ FA Remote Solutions นี้ไปใช้งานได้จริง”
Great Wall Motor Manufacturing (Thailand) Co., Ltd.
เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของประเทศจีน ซึ่งมาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยที่จังหวัดระยอง ในปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งถ้าย้อนไปดูในโรงงานของ Great Wall Motors ที่ประเทศจีน ได้ติดตั้งระบบที่คล้าย e-F@ctory Alliance แล้วที่ประเทศจีน ดังนั้น เมื่อได้มาขยายฐานการผลิตที่ไทย ทาง Great Wall Motors จึงได้มองหาโซลูชั่นในรูปแบบที่คล้ายกันนี้มาใช้ในโรงงานที่ประเทศไทยเช่นกัน
ทีเคเค จึงได้รับการเลือกจาก Great Wall Motors ให้มาเป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์ ที่มาดูแลในส่วนของ Energy Monitoring System เป็นระบบที่วิเคราะห์ ควบคุม ระบบค่าพลังงานต่างๆ ที่ใช้ในโรงงานทุกส่วนในสายการผลิต ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของระบบไฟฟ้า ระบบความร้อน ความเย็น ค่ามิเตอร์พลังงานต่างๆ
โดยประโยชน์ที่ได้รับที่เห็นได้ชัด คือ ลดระยะเวลาในการจดบันทึก ลดคนงาน ทำให้เกิดประสิทธิภาพในงานมากขึ้น ลดความผิดพลาดจากการใช้แรงงานคน สามารถดูชั่วโมงในการทำงานของเครื่องจักรแบบเรียลไทม์ และสามารถนำไปวิเคราะห์ต่อได้ว่าจะปรับกระบวนการผลิตอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้ในแต่ลละช่วงเวลา
ต่อมาเป็นประโยชน์ในทางการจัดทำรายงานให้กับผู้บริหารเพื่อให้ได้ทราบถึงการทำงานของเครื่องจักร ที่สามารถนำไปประมวลผล เพื่อต่อยอด เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้นสำหรับภาคการผลิตต่อไป
Honda Automobile (Thailand) Co., Ltd.
ได้สร้างโรงงานใหม่ที่จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก มีพื้นที่หลายพันไร่ และคนงานต้องเดินจดบันทึกข้อมูลค่าพลังงานต่างๆทุกวัน จากนั้นจึงนำค่าพลังงานนั้นมาเข้า Data Entry ทั้งเช้าและเย็น แล้วนำมาจัดทำเป็นรายงาน และนำมาวิเคราะห์โดยใช้พนักงาน ต่อมา ทางทีเคเคได้เข้าไปจัดทำระบบใหม่ คือระบบ System Overview ให้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ คือการลดแรงงานคนที่จะเข้ามาทำงานตรงนี้ลงได้ และยังมีตัวเลขการคืนทุนมาอยู่ที่ 2.5 ปีเท่านั้น
Nissan Powertrain (Thailand) Co., Ltd.
มีโรงงานตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด ที่มีการเปิดไลน์การผลิตใหม่ขึ้น เป็นไลน์ประกอบแบตเตอรี่ไฟฟ้า ในไลน์นี้ ใช้คนเป็นผู้มอนิเตอร์ ด้วยขั้นตอนการทำงานแบบ Stop-Call-Wait แต่ทันทีที่เปลี่ยนมาใช้ระบบ SCADA ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ขั้นตอนการทำงานแบบเดิมอีก เพราะการทำงานทุกอย่างเป็นข้อมูล คีย์ขึ้นไปที่แดชบอร์ด (Dashboard) และสามารถโชว์แบบเรียลไทม์ให้กับผู้บริหาร และคนทำงานทั้งในระดับโอเปอร์เรเตอร์และซูเปอร์ไวซ์เซอร์ ได้ดู ทั้งผลของการทำงานในแต่ละวันไปจนถึงความผิดพลาด หรือ error ที่เกิดขึ้นซึ่งทีมงานสามารถนำไปวางแผนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการผิดพลาดนั้นขึ้นมาอีกได้”
สัญญาณ 5G ที่ไว้วางใจได้ คือ Key success ของ Total Industrial Solution
วิเชียร MD ของ Mitsubishi Electric ได้ย้ำชัดเจนว่า “ระบบ Eco-system ที่สร้างให้เกิด e-F@ctory Alliance ขึ้นนี้ จะขาด ระบบเครือข่าย 5G ที่ไว้วางใจได้ ไม่ได้เลย โดยกล่าวว่า
“AIS 5G มีบทบาทอย่างมาก ในการช่วยให้ทาง Mitsubishi Electric และ ทีเคเค คอร์ปอเรชั่น ได้ วางระบบ หรือ Implement ระบบอุตสาหกรรมในไทยและปฏิวัติให้เกิด Smart manufacturing ได้เร็วขึ้น เพราะถ้าย้อนไปก่อนหน้าที่จะเกิดความร่วมมือกันในครั้งนี้ ทาง Mitsubishi Electric ได้ประสบกับปัญหาในหลายเรื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของ System Integrator ที่จะมาให้บริการสัญญาณที่เสถียรให้กับภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้ทุกโรงงานสามารถใช้ระบบ 5G Smart Manufacturing Solutions ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง”
ธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS กล่าวในโอกาสแถลงถึงความสำเร็จในการร่วมมือครั้งนี้ว่า
“ครั้งนี้ก็เป็นอีกก้าวสำคัญที่เราจะยกเอาต้นแบบที่ได้พัฒนามาตลอดในช่วงที่ผ่านมาสู่การใช้งานจริง ผ่านความร่วมมือกับ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น ที่มีความแข็งแรงในด้านสายการผลิตของโรงงานในประเทศไทย และ ทีเคเค คอร์ปอเรชั่น ผู้จำหน่ายสินค้าและดำเนินการใช้งานระบบควบคุมการผลิตอัตโนมัติในโรงงานชั้นนำ ที่จะมาร่วมกันนำเสนอโซลูชั่น e-F@ctory ที่พร้อมให้บริการและยกระดับภาคการผลิตด้วย Smart Manufacturing ที่ใช้งานจริงบนเครือข่าย AIS 5G”
“โดย AIS 5G จะมาเสริมประสิทธิภาพการทำงานภายในภาคการผลิตได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งการเพิ่มคุณภาพ ลดต้นทุนการผลิต และตอบรับความต้องการการใช้งานในรูปแบบเครือข่ายเฉพาะ (Private Network) อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล ความเร็ว ลดความหน่วง เพื่อการรองรับการทำงาน IoT ได้อย่างเต็มรูปแบบ”
ข่าวจาก salika.co