ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เทคโนโลยีหุ่นยนต์ก็เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของพวกเรากันมากขึ้น ด้วยเหตุผลหลัก คือ ช่วยลดการสัมผัส ลดความเสี่ยงให้กับมนุษย์ รวมถึงตอบสนองปัญหาการขาดแคลนแรงงานในช่วงวิกฤตโควิดนี้ด้วย โดยหุ่นยนต์ที่ทุกคนคุ้นชินกันก็มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งหุ่นยนต์ทางการแพทย์ หุ่นยนต์ที่ใช้ในกระบวนการผลิตภาคอุตสาหกรรม ไปจนถึง หุ่นยนต์บริการ ที่ใช้ในหลากหลายธุรกิจ โดยเฉพาะในร้านอาหาร ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระของพนักงานในร้านไปได้ไม่น้อย
จากทางเลือกสู่ผู้ช่วยหลักในร้านอาหาร หุ่นยนต์บริการ จักรกลแห่งความหวัง แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานและช่วยลดต้นทุนในระยะยาวอย่างได้ผล
ก่อนจะไปทำความรู้จักกับต้นแบบหุ่นยนต์บริการที่มาแบ่งเบาภาระมนุษย์ เราขอมาอัปเดตคุณประโยชน์ที่แท้จริงของ หุ่นยนต์บริการ เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจว่า ทำไม หุ่นยนต์บริการจึงเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ในอุตสาหกรรมร้านอาหารในปัจจุบัน
ดังที่เกริ่นว่าการหันมาใช้หุ่นยนต์บริการนับเป็นโซลูชันที่ดีของการลดการสัมผัสในยุคที่วิกฤตโรคระบาดยังไม่จากเราไป ทว่า เหตุผลที่แท้จริง ที่ทำให้ต้องมีการนำ หุ่นยนต์บริการ มาใช้อย่างจริงจังในยุคนี้ นั่นคือ ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มประสบปัญหาในการขาดแคลนแรงงานและการจ้างงานเป็นอย่างมาก
จากข้อมูลของ Recruitment Research Institute 58.com เผยว่า ในช่วงเดือนมกราคม – เดือนตุลาคม ปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เชื้อไวรัสโควิดกำลังระบาดไปทั่วโลกนั้น ธุรกิจ 5 อันดับแรกที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น นั่นคือ ธุรกิจที่พักอาศัย ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม แคชเชียร์บริกรในสถานบันเทิง และพ่อครัว
ทั้งนี้ ความต้องการพนักงานล้างจานและเชฟ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 เมื่อเทียบช่วงเดียวกับปีก่อน นอกจากนี้ค่าจ้างแรงงานในธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มยังอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง มีอัตราส่วนเฉลี่ยของต้นทุนแรงงานต่อรายได้คิดเป็นร้อยละ 21.35 และยังคงรักษาอัตราการเติบโตร้อยละ 3.69 จัดอยู่ในกลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุดของธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม
ดังนั้น การขาดแคลนแรงงานในธุรกิจร้านอาหาร เป็นปัญหาที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญ และช่วงการระบาดครั้งใหญ่ ปัญหานี้ก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างในสหรัฐอเมริกา ข้อมูลจากสมาคมร้านอาหารแห่งชาติ ที่เมื่อปลายปี 2021 ได้สำรวจผู้ประกอบการร้านอาหาร 3,000 แห่ง พบว่า 7 ใน 10 บอกว่าร้านของตนมีพนักงานไม่เพียงพอ และไม่คิดว่าสถานการณ์แรงงานจะดีขึ้นภายในปีนี้
โดยในสหรัฐฯ ช่วงโควิดที่ผ่านมาเกิดการลาออกครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารและโรงแรม ที่เดือน พ.ย. 2021 ที่ผ่านมา มีพนักงานลาออกถึง 1 ล้านคน ขณะที่ในอดีตพนักงานร้านอาหารจำนวนมากบอกชัดเจนว่าจะไม่กลับไปทำงานในอุตสาหกรรมนี้ แม้หลายร้านจะประกาศเพิ่มค่าจ้างให้ก็ตาม
แรงจูงใจหลักที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์นี้ นอกจากจะเป็นเรื่องของความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคระบาดที่ไม่น้อยกว่าอาชีพใดๆ แล้ว ก็ยังมีอีกหลากหลายเหตุผลที่ทำให้ อาชีพพนักงานเสิร์ฟอาหาร ไม่เป็นที่น่าพิศมัยอีกแล้ว
ทั้งการที่ธุรกิจร้านอาหารในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยด้วย ต่างพึ่งพาแรงงานต่างชาติเป็นหลัก เมื่อเกิดโรคระบาด ทำให้แรงงานต้องกลับประเทศบ้านเกิดและเมื่อยังไม่เปิดพรมแดน แรงงานเหล่านี้ก็กลับไปทำงานไม่ได้ ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน
และยิ่งในช่วงที่ใกล้เปิดประเทศแบบเต็มที่ ผู้คนจะออกมาใช้ชีวิตกันมากขึ้น แต่ร้านอาหารไม่สามารถหาแรงงานกลับเข้ามาได้ทัน ทำให้การนำหุ่นยนต์มาใช้ เพื่อเรับดีมานด์มหาศาลที่เกิดขึ้น เป็นทางเลือกแรกๆที่ผู้ประกอบการร้านอาหารตัดสินใจเลือก
ตามไปดูต้นแบบ MyBot หุ่นยนต์บริการ คุณค่าที่คู่ควรกับธุรกิจร้านอาหารยุค New normal
และสำหรับประเทศไทยเอง ก็มีการนำหุ่นยนต์บริการมาใช้ในธุรกิจร้านอาหารเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับร้านอาหาร คาเฟ่ ให้มีการบริการที่เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้ตลาดอุตสาหกรรมการผลิตและพัฒนาหุ่นยนต์บริการในประเทศไทยเฟื่องฟูมากขึ้นอีกด้วย
เพื่อให้เห็นภาพ เราขอยกตัวอย่าง Success case ของการนำเสนอหุ่นยนต์บริการที่สามารถมาช่วยปรับโฉมใหม่ของการให้บริการให้กับร้านอาหาร คาเฟ่ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยล่าสุด KSI Solution บริษัทในเครือ TKK Corporation ผู้จัดจำหน่าย MyBot หุ่นยนต์บริการ AGV และ AMR สัญชาติจีน พร้อมบริการให้คำปรึกษาด้านการออกแบบ ติดตั้ง AGV และ AMR สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า ยกพลผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์บริการขึ้นเหนือบุกเชียงใหม่ นำ MyBot หุ่นยนต์บริการ โชว์ศักยภาพในงาน (FTI Expo 2022: Shaping Future Industries for Stronger Thailand) มหกรรมแสดงสินค้าและนวัตกรรมของอุตสาหกรรมไทย จัดโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
โดยในงานนี้เองมีการจัดกิจกรรม “Exclusive Talk” ณ ร้านมองบลังค์ สวีท คาเฟ่ พร้อมเปิดตัว MyBot หุ่นยนต์อัจฉริยะเพื่องานบริการ โซลูชั่นสำหรับ Chiang Mai Smart City ด้วยระบบเทคโนโลยี 5G ในยุค Next Normal โดยมี บุญทวี จันทสุวรรณ หัวหน้าฝ่ายการค้า บริษัท เคเอสไอ จำกัด พร้อมด้วยทีมเจ้าหน้าที่ ร่วมพูดคุยถึงขีดความสามารถของ MyBot หุ่นยนต์บริการ เพื่อรองรับการให้บริการในร้านอาหาร คาเฟ่ที่มีอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียง
โดย คุณบุญทวี ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ปู้ประกอบการ ถึง MyBot หุ่นยนต์บริการ ของ KSI Solution ว่า
“MyBot หุ่นยนต์อัจฉริยะสามารถให้บริการในร้านอาหาร และปฏิบัติได้หลากหลายหน้าที่รวมถึงการส่งอาหาร การมีปฎิสัมพันธ์กับลูกค้า การเคลื่อนที่ได้ด้วยตนเอง มีระบบนำทางที่แม่นยำ สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้ สามารถสนทนาด้วยเสียง และสามารถทำงานร่วมกันได้ในหลายๆ เครื่อง”
“ด้วยการติดตั้งระบบปฏิบัติการที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทคือ Robot OS หุ่นยนต์ให้บริการในร้านอาหารจึงสามารถที่จะได้รับการปรับเปลี่ยนได้ในหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นสำหรับร้านอาหาร ภาคธุรกิจ ในส่วนของโรงพยาบาลและโรงแรม มันสามารถเชื่อมต่อได้อย่างง่ายและรวดเร็วกับระบบโครงสร้างที่มีอยู่เดิม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยลดต้นทุน หุ่นยนต์นี้จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความจำเป็นในการสร้างสถานที่ให้น่าอยู่มากขึ้น โดยหุ่นยนต์บางรุ่นสามารถส่งอาหารและมีปฎิสัมพันธ์กับลูกค้า พวกเราสามารถทำได้ทั้งสองอย่าง”
โดย MyBot หุ่นยนต์บริการ ตัวนี้ มีจุดเด่นในด้านต่างๆ ดังนี้
ติดตั้งด้วยกล้องความคมชัดสูง ไมโครโฟน 6 ตัว และหน้าจอแบบสัมผัสซึ่งช่วยสนับสนุนระบบการแสดงผลและการปฎิสัมพันธ์ด้วยเสียง
มีระบบนำทางอัตโนมัติด้วยความเร็วและความคงที่ ระบบเซ็นเซอร์ในตัวเพื่อช่วยการจัดเส้นทางโดยอัตโนมัติ ระบบตรวจจับเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางเพื่อทำให้แน่ใจว่าการขนส่งจะมีความเสถียร
ออกแบบให้มีความยืดหยุ่น มีชั้นที่สามารถปรับได้และการออกแบบถาดเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึง สามารถรองรับน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัม ในแต่ละชั้น และรวมกันมากถึง 40 กิโลกรัม
ใช้งานได้กว่า 2 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เลือกจากข้อกำหนดของแบตเตอรี่ 2 แบบคือ แบตเตอรี่แบบพิเศษโดยมีระยะเวลาสแตนด์บายสูงถึง 48 ชั่วโมง หรือแบตเตอรี่แบบมาตรฐานซึ่งสามารถปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่องถึง 15 ชั่วโมง
ส่งอาหารได้แบบไม่หยุดพัก คุ้มค่ามากกว่าการส่งอาหารแบบธรรมดาทั่วไป ด้วยขนาดช่องใส่ถาดขนาด 4 ชั้นจึงสามารถทำให้ส่งอาหารได้ 4 โต๊ะในหนึ่งรอบ สามารถส่งอาหารได้กว่า 600 ถาดต่อวัน ให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงใน 7 วันจึงทำให้ลดต้นทุนในด้านแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพในด้านแรงงานกว่า 2-3 เท่าจากแรงงานทั่วไป
มีปฎิสัมพันธ์กับลูกค้า ด้วยการมีปฎิสัมพันธ์ทางเสียง หุ่นยนต์สามารถช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าร่วมหรือต่ออายุสมาชิก การเพิ่มอัตราการคงไว้ซึ่งการเป็นสมาชิกและการเพิ่มยอดขาย
ติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว และง่ายในการใช้งาน เมื่อเริ่มดำเนินการแล้ว หุ่นยนต์จะสามารถ เริ่มปฏิบัติงานได้โดยทันที การฝึกอบรม พนักงานนั้นจะใช้ระยะเวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น
ข่าวจาก salika.co